ต้องการทำธุรกิจส่งออกแต่ไม่รู้ว่าจะส่งออกสินค้าอะไรดี จะศึกษาจากอะไรได้บ้าง ?
มีผู้ประกอบการหลายรายที่อยากจะทำธุรกิจส่งออก
แต่ยังไม่รู้ว่าจะส่งออกสินค้าอะไรดี ซึ่งการเริ่มต้นในการเลือกสินค้านับว่าเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่ง
เพราะถ้าเราเลือกสินค้าที่มีความต้องการมาก เช่น อาหาร หรือว่ายา เป็นต้น
ย่อมหมายความว่า ต้องมีผู้บริโภคและคนที่ต้องการสินค้าเป็นจำนวนมาก
แต่ในทางเดียวกัน คู่แข่งขันในธุรกิจ
ก็ย่อมมากตามไปด้วยแต่ก็ใช่ว่าเราจะไม่ประสบความสำเร็จ
ขึ้นอยู่กับเทคนิคการเจรจาการค้า ขึ้นอยู่กับความรู้ความสามารถของผู้ขาย
และคุณภาพของสินค้าด้วย
ดังนั้น
การเริ่มทำธุรกิจส่งออกสำหรับผู้ประกอบการที่ยังไม่รู้ว่าจะเลือกสินค้าอะไรดี ทางกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศขอแนะนำให้ศึกษาข้อมูลดังนี้ค่ะ
1. ให้ถามตัวเองว่าชอบ หรือมีความตั้งใจที่จะทำสินค้าตัวไหนเป็นพิเศษหรือเปล่า
เพราะว่ามีนักธุรกิจหลายรายที่เริ่มต้นจากการเลือกสินค้าที่ตนเองชอบ แล้ว
สามารถค้าขายหรือว่าส่งออก และประสบความสำเร็จ เพราะการที่เราทำอะไรแล้วเราชอบ
ย่อมมีความตั้งใจเป็นพิเศษ
2. ให้ดูว่าเราสามารถผลิต หรือ
มีความชำนาญสินค้าตัวใดตัวหนึ่งเป็นพิเศษหรือเปล่า คือ
ผู้ประกอบการบางรายยังไม่มีสินค้าในการส่งออกแล้วมีความต้องการที่จะผลิตสินค้าเอง
มากกว่าที่จะสั่งผลิตจากโรงงานแล้วทำการส่งออก การศึกษาในวิธีนี้ให้ดูว่า
ถ้าคุณต้องการผลิตสินค้าขึ้นมาหนึ่งตัวเพื่อการส่งออก คุณต้องดูว่า
คุณมีความชำนาญสินค้าอะไร มีความถนัดสินค้าอะไร และมีความพร้อมใน
ในการผลิตหรือเปล่า ถ้าวิเคราะห์ได้แล้วว่ามีความพร้อม
คุณก็สามารถผลิตสินค้าที่คุณคิดว่ามีความพร้อมได้
เพราะการที่ผลิตสินค้าที่เราชำนาญ มีความรู้ และมีความพร้อม ก็ย่อมจะทำได้ดีกว่า สินค้าที่เราไม่ถนัด
และไม่มีความชำนาญ
3. ให้ดูว่าเรามี Connection
ธุรกิจกับใครบ้าง เช่น เราอาจจะรู้จัก เจ้าของโรงงานผลิตสปา
ซึ่งเรามี Connectıon หรือมีมิตรภาพกันมายาวนาน
ถ้าจะรับของจากโรงงานดังกล่าวไปขาย หรือนำไปทำการตลาดต่างประเทศ
ก็น่าจะได้ราคาหรือความไว้เนื้อเชื่อใจได้มากกว่า สินค้าในโรงงานอื่นๆ
4. ให้ศึกษาจากสถิติการค้า
ว่ามีสินค้าตัวไหนบ้างทีมีการนำเข้าและส่งออกโดยศึกษาจากตัวเลขมูลค่าการนำเข้าและส่งออกโดยรวมในแต่ละปี
(เพื่อให้รู้ว่ามีสินค้าอะไรบ้างที่มูลค่ามากในขณะนั้น)
การศึกษาโดยใช้ข้อมูลสถิติการค้าในแต่ละสินค้า ทำให้เราวิเคราะห์ได้ว่า
สินค้าในแต่ละตัวที่ประเทศไทย หรือว่า ทั่วโลกทำการนำเข้า ส่งออก
มีปริมาณมากน้อยแค่ไหน มีมูลค่าเท่าไหร่
แล้วนำข้อมูลนี้มาตัดสินใจในการเลือกสินค้า
5. ให้ศึกษาข้อมูลพื้นฐานในแต่ละประเทศ
ว่าในแต่ละประเทศมีแนวโน้ม และมีความเป็นอยู่อย่างไรบ้าง
ถ้าผู้ประกอบการสนใจที่จะไปลงทุน หรือว่าสนใจทำธุรกิจส่งออกไนประเทศนั้นๆ
ให้ศึกษาข้อมูลพื้นฐาน หรือกฎระเบียบ และพฤติกรรมแนวโน้มการบริโภค(ของสินค้า)
ของแต่ละประเทศ ที่เราสนใจลงทุน และทำธุรกิจส่งออก
ผู้ประกอบการสามารถเข้าไปที่ดูข้อมูลได้ที่ http://goo.gl/4NcSk8
เป็น
Website
ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศที่มีข้อมูลพื้นฐานในแต่ละประเทศ
ดังนั้น ถ้าเข้าไปที่ Website ดังกล่าว
ผู้ประกอบการสามารถศึกษารายละเอียดของแต่ละประเทศ
เพื่อใช้ในการตัดสินใจเลือกสินค้าสำหรับทำธุรกิจส่งออกได้
6. การเข้าเยี่ยมชมงานแสดงแสดงสินค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ
การเข้าเยี่ยมงานแสดงสินค้าเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยผู้ประกอบการได้มาก
เพราะว่างานแสดงสินค้าในแต่ละงานจะเป็นการรวมตัวของบริษัทต่างๆ
ที่นำสินค้ามาแสดงและนำมาแข่งขันกัน ตรงจุดนี้ถือว่าเป็นประโยชน์ต่อผู้ประกอบการที่เข้าเยี่ยมชม
เพราะจะเห็นภาพรวมของสินค้าและการแข่งขัน ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ยกตัวอย่างเช่น ถ้าคุณต้องการส่งออกสินค้าอาหาร ให้เข้าเยี่ยมชมงานแสดงสินค้า THAIFEX
ของกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ เป็นต้น และ ผู้ประกอบการสามารถเข้าไปดูงานแสดงสินค้าที่ทางกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจัดขึ้นได้ที่
www.thaitradefair.com
และ ปฎิทินกิจกกรรมบนเว็บไซต์ของกรมฯ http://goo.gl/4NcSk8
หากผู้ประกอบการมีข้อสงสัยสามารถโทรเข้ามาสอบถามได้ที่สายตรงการค้าระหว่างประเทศ
เบอร์ 1169 หรืออ่านข่าวสารอื่นๆ เพิ่มเติมได้ที่ www.ditp.go.th และ Mobile
Application: DITP Connect นอกจากนี้ผู้ประกอบการสามารถเข้าไปอ่านข้อมูล
“5 ขั้นตอนง่ายๆ กับการส่งอก” และทำแบบทดสอบวัดระดับผู้ประกอบการกับ “Quiz
to success” ได้แล้ววันนี้ที่ http://goo.gl/9qrDkB ค่ะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น