รู้หรือไม่ ? ข้อดี ข้อเสีย ของประกันชีวิตแต่ละแบบเป็นยังไงบ้าง
ถ้าพูดถึงประกันชีวิต
หลายคนคงนึกถึงการฝากเงินระยะยาวที่ได้เงินคืนทุกๆ ปีแล้วมีทุนประกันพ่วงด้วย เราอาจจะเข้าใจเรื่องพื้นฐานของประกันชีวิตกันมาบ้างแล้ว
แล้วสรุปประกันชีวิตมีกี่ประเภท? แล้วแต่ละประเภทมีข้อดีข้อเสียยังไงบ้าง? ตามไปดูกันเลยค่ะ
ประกันชีวิตแบบสะสมทรัพย์
คือประกันชีวิตที่เน้นการออมเงิน จุดเด่นก็คือ เป็นการออมที่การันตีเงินเป้าหมาย
ปราศจากความเสี่ยง และช่วยสร้างวินัยในการออมให้เราในเชิงบังคับ
(เพราะไม่สามารถถอนเงินออกจากกรมธรรม์ได้) แต่ข้อเสียก็คือ ทุนประกันที่ได้ไม่สูง
(เมื่อเทียบกับแบบประกันอื่นๆ หากต้องจ่ายเบี้ยประกันที่เท่ากัน)
จึงไม่เหมาะกับการทำเพื่อการคุ้มครอง
ประกันชีวิตแบบบำนาญหรือประกันผู้สูงอายุ เป็นการออมเงินเพื่อการเกษียณโดยเฉพาะ
โดยจะต้องออมอย่างต่อเนื่องจนถึงอายุเกษียณ (เช่น 55, 60
หรือ 65 ปี แล้วแต่แบบ) แล้วหลังเกษียณจะมีเงินคืนจากแบบประกันทุกๆปี
ไปจนกระทั่งอายุ 85 หรือ 90 ปี จุดเด่นจุดด้อยก็เช่นเดียวกับแบบสะสมทรัพย์
แต่แบบบำนาญจะมีผลตอบแทนสูงกว่าเล็กน้อยและมีเงินคืนที่ยาวนาน
สำหรับไว้ใช้เพื่อการเกษียณโดยเฉพาะ
ประกันชีวิตแบบตลอดชีพ
คือประกันชีวิตประเภทที่เน้นการคุ้มครองระยะยาว
โดยเราต้องจ่ายเบี้ยประกันเป็นระยะเวลาหนึ่ง เช่น 5 ปี 10 ปี 15 ปี หรือ 20 ปี
แต่ให้การคุ้มครองเราตลอดชีพ ข้อดีก็คือ เบี้ยค่อนข้างถูก และคุ้มครองนานอีกด้วย
เหมาะกับผู้ที่มีภาระรับผิดชอบยาวนาน หรือต้องการวางแผนสร้างกองมรดกให้ลูกหลาน
แต่ข้อเสียก็คือ ไม่มีเงินคืน หากต้องการเงินคืนเป็นก้อนใหญ่ต้องปิดกรมธรรม์
แล้วเวนคืนมูลค่าเงินสด ทำให้ต้องหยุดการคุ้มครองไปด้วย
ประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลา
เราสามารถเลือก ช่วงเวลาในการจ่ายเบี้ยและรับการคุ้มครองได้เอง
ตามระยะเวลาที่กำหนด เช่น 5 ปี / 10 ปี / 15 ปี เป็นต้น (อยากคุ้มครองกี่ปีก็จ่ายเบี้ยเท่ากับจำนวนปีนั้นๆ)
จุดเด่นก็คือ เลือกระยะเวลาคุ้มครองเองได้
และถือเป็นแบบประกันที่เบี้ยประกันถูกที่สุด แต่ข้อเสียคือ
ไม่มีมูลค่าเงินสดกรมธรรม์ เพราะเบี้ยประกันเป็นแบบจ่ายทิ้งปีต่อปี
แหล่งที่มา aommoney.com
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น